มีคืนที่ผ่านมาแล้วคืนหนึ่ง ที่ฉันกำลังอยากร้องเพลงสักเพลงให้เพื่อนคนหนึ่งฟัง เพลงที่ฉันร้องมาเกือบครึ่งชีวิตแต่ฉันกลับพบว่าฉันลืมเนื้อไปสนิท ให้นึกยังไง นึกแค่ไหน ก็นึกไม่ออก

Time…
I’ve been passing time watching trains go by,
All of my life…
Lying on the sand, watching seabirds fly
Wishing there would be
Someone waiting home for me

เชื่อไหมกับประโยคและถ้อยคำง่ายๆในเพลงบางเพลงมันทำให้ฉันมองเห็นโลกอีกใบที่มีสีฟ้าใสในจินตนาการ แปลกที่สำหรับฉันมันเป็นมากกว่านั้น ฉันเห็นภาพที่แตกต่างไปจากทุกวัน ภาพคนๆหนึ่งที่กำลังรอคอยใครอีกคนหนึ่งที่ไม่ใช่แค่ ใครสักคนไม่ใช่แค่ใครก็ได้แต่จะต้องเป็นคนๆเดียวเท่านั้น

แปลกที่เพลงบางเพลงอาจนำไปสู่เหตุการณ์หลายๆอย่างในชีวิตที่เหนือความคาดหมาย เพลงบางเพลงมีความยาวแค่ไม่กี่นาทีแต่อาจส่งผลให้คนเขียนจดหมายหากันไปตลอดชีวิต อาจทำให้คนบางคนเดินออกมาจากโลกที่เคยอาศัยอยู่มาตลอดมามีชีวิตอยู่ร่วมกับคนอีกคนหนึ่ง

Something’s telling me it might be you
Yes it’s telling me it might be you…
All of my life…

Looking back as lovers go walking past…
All of my life…
Wondering how they met and what makes it last
If I found the place
Would I recognize the face?

Something’s telling me it might be you
Yeah it’s telling me it might be you…

เพื่อนคนหนึ่งถามฉันเสมอว่า ถ้าคนๆนั้นมา เราจะรู้เลยใช่ไหม ..ว่าเป็นคนนี้ ฉันจำได้ว่าฉันตอบคำตอบที่เธออยากได้ยิน แต่ในความเป็นจริงนั้นฉันไม่รู้ เพราะประสาทสัมผัสคนเรามีไม่เท่ากันแต่คนที่ใช่ยังไงก็คือใช่ ความ ใช่ มันมีพลังมากพอที่จะตอบแทนคำตอบในทุกคำถาม

So many quiet walks to take
So many dreams to wake
And we’ve so much love to make
I think we’re gonna need some time
maybe all we need is time…
And it’s telling me it might be you
All of my life…

วันนี้ฉันไปยืนดูขนมเค้กหลายเจ้ามาก ดูแล้วฉันก็อยากจะร้องไห้ 🙂 ฉันไม่อยากซื้อ ฉันอยากทำขึ้นมาเอง ฉันอยากยืนอยู่ในห้องครัวทำขนมแล้วรู้ว่ามีคนกำลังรอชิมอยู่ ช่วงนี้ฉันทานอาหารข้างนอกไม่ค่อยลงเลยเปลี่ยนมาทำกินเองบ่อยๆ ก็ได้ผลเพราะทำเองความรู้สึกมันแตกต่างกับคนอื่นทำ อย่างน้อยๆที่สุดก็รู้ว่าทำด้วยใจ แล้วฉันก็ตักข้าวมานั่งกิน บอกตัวเองว่าฉันกำลังมีความสุขแม้จะกินข้าวตัวคนเดียวเวลาน้อยนิดที่ถูกใช้สอยไปกับบุคคลอันเป็นที่รักดังเช่นเพื่อนๆและครอบครัวทุกเวลามันมีค่ากับฉันมาก แม้ว่าทุกๆคนก็ยังจะเห็นว่าฉันยังเป็นเหมือนเดิม ลึกๆข้างในบางทีฉันอาจกำลังร้องไห้

I’ve been saving love songs and lullabies
And there’s so much more
No one’s ever heard before

“แม้ว่าคนที่แปลกแยกที่สุดในสังคม..ก็ยังต้องการใครอีกคนที่แปลกแยกเป็นเพื่อนกัน”
คำพูดในวงสนทนาที่คอยขัดคอกันตลอดในหมู่สมาชิกแต่พอประโยคนี้ดังขึ้น ทุกคนก็เห็นพ้องต้องกัน แม้ว่าคนที่ชอบอยู่คนเดียวเป็นที่สุดก็ยังต้องการใครสักคน นับประสาอะไรกับคนอย่างเราๆ ..ใครไม่ต้องการช่วยมาบอกฉันหน่อย

Something’s telling me it might be you
Yeah it’s telling me it must be you…
And I’m feeling it’ll just be you…
All of my life…

Maybe it’s you…
Maybe it’s you…
Ive been waiting for all of my life

หลายครั้งหลายหนที่ความอ่อนแอเข้ามาเคาะประตู ฉันพยายามบอกตัวเองว่า ไม่ แต่ลึกๆข้างในใจเหมือนมันเกิดการกบฎ บางครั้งฉันก็ทนไม่ไหว ฉันอ่อนแอมาก ฉันคิดว่าทางออกที่ดีที่สุดคือตัดคนๆนี้ออกไปจากชีวิต ทั้งๆที่รู้ว่าจะต้องเจ็บปวด เพราะรู้ว่ายังไงก็รักกับคนๆนี้และในที่สุดก็อยากลงเอยกับคนๆนี้

เมื่อก่อนนั้น ปัญหาของฉันคือ รอไม่ไหว เพราะอยากเจอคนที่ใช่เสียที มาวันนี้ ปัญหาของฉันก็ยังเหมือนเดิมคือ รอแทบไม่ไหว

ฉันไปเจอเพลงนี้ในไดอารี่ของน้องสาวคนหนึ่ง ฉันร้องไห้ตั้งแต่อินโทรขึ้น ..คืนนี้ เพลงเดียวกันที่เคยลืมเนื้อเพลงไปแล้ว ฉันกลับมาจำทุกๆอย่างที่เกี่ยวกับเพลงนี้ได้ครบถ้วน ทั้งเนื้อเพลง ดนตรี เมโลดี้และความรู้สึกทุกอย่างที่อยู่ข้างในนั้น

it might be you